ข่าวสินเชื่อ การเงิน

วิธียื่นขอ”เงินเยียวยาน้ำท่วม” รับ 9 พันบาท ใน 3 กรณี 53 จังหวัด

 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เรียกประชุมชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 พร้อมเปิดรายชื่อ 53 จังหวัด ยื่นขอ”เงินเยียวยาน้ำท่วม” 3 กรณี รับสูงสุด 9 พัน

 

นายไชยวัฒน์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 3,045 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเบื้องต้นจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือฯ จะเป็นจังหวัดที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 และมีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และ/หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 57 จังหวัด 338,391 ครัวเรือน ได้แก่

กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นนทบุรี นครนายก นครปฐม นครพนม นครสวรรค์ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช น่าน บึงกาฬ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พังงา พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยะลา ระยอง ราชบุรี ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อุทัยธานี อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี

การให้ความช่วยเหลือฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 กรณี คือ

กรณีที่ 1 : บ้านที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงกรณีน้ำท่วมขังติดต่อกันเกิน 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท

กรณีที่ 2 : บ้านที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 7,000 บาท

กรณีที่ 3 : กรณีบ้านที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกิน 60 วันขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ (ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 30) และจะต้องผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ที่ประสบสาธารณภัย รวมถึงจะต้องผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.)”

วิธีการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือฯ

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้กำหนดช่องทางการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือฯ ไว้ 2 ช่องทาง ทั้งแบบ Onsite และ Online

แบบ Onsite ประชาชนสามารถยื่นคำร้องฯ ด้วยตนเอง ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย
แบบ Online จะดำเนินการยื่นคำร้องและติดตามสถานะผ่านเว็บไซต์ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่นเป็นหลักฐานในการขอรับเงินช่วยเหลือ ได้แก่

  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีเป็นบ้านพักอาศัยที่มีทะเบียนบ้าน) สัญญาเช่าบ้านหรือหนังสือรับรองการเช่าจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กรณีเป็นบ้านเช่า)

หากเป็นกรณีอื่น อาทิ บ้านพักอาศัยประจำแต่ไม่มีทะเบียนบ้าน จะต้องให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมกับผู้นำชุมชน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและลงนามร่วมกันอย่างน้อย 2 ใน 3

ทั้งนี้ผู้ประสบอุทกภัยสามารถยื่นคำร้อง ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนการยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.flood67.disaster.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2567 เป็นต้นไป สำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคาร สามารถไปลงทะเบียนพร้อมเพย์ได้ทุกธนาคารเพื่อให้สามารถรับเงินช่วยเหลือได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ได้ทาง facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะทำอัปเดตข้อมูลความคืบหน้าเป็นระยะ